เที่ยวไทย

ตั้งแต่กระแสปีนั้นที่ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”มาแรงก็ทำให้ผู้คนหันมาท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถานต่าง ๆ ของไทยกันมากขึ้นเพื่อศึกษาเรื่องราวในประวัติศาสตร์และทำชาเลนจ์เช็กอินแชร์ความงดงามของโบราณสถานใกล้บ้านตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่หรือโบราณสถานขนาดเล็กเพื่อบอกเล่าถึงร่อวรอยความเจริญรุ่งเรืองขีดสุดในยุคหนึ่งที่โดดเด่นด้วยศิลปะที่วิตรงดงามแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นมีคนมาเที่ยวกันมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานในจังหวัดที่ถูกใช้เป็นฉากย้อนยุคของละครบุพเพสันนิวาสอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับจังหวัดลพบุรีที่มีคนเดินทางมาเที่ยวกันพร้อมใส่ชุดไทยเยอะมากในวันหยุด ซึ่งไม่ต้องพูดถึงอยุธยาว่าตามวัดโบราณต่าง ๆ จะมีคนมาเยอะแค่ไหน ยิ่งอยู่ใกล้กรุงเทพมหานครด้วย แบบนี้เราก็ต้องชวนเพื่อน ๆ มาเช็กอินเจาะสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานของ ลพบุรี กันก็ดูจะมีความเงียบสงบมากกว่าและคนน้อยกว่าอยุธยาด้วย รับรองเที่ยวแล้วคอมพลีทในการถ่ายรูปและสัมผัสเหตุการณ์สำคัญในยุคอดีตที่หลงเหลือกลิ่นอายที่เด่นชัดแน่นอน ซึ่งจะมีโบราณสถานสุดปังของลพบุรีที่ใดบ้างซึ่งคุณไม่ควรพลาด มาอ่านกันเลย

“ดอย อินทนนท์” ดอยสูงระดับประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นมากจนนักท่องเที่ยวที่ชอบท้าทายอากาศหนาวเย็นต้องมาที่นี่กันในทุกปี อย่างที่ไม่มีดอยไหนจะสู้อากาศหนาวเย็นตลอดเวลาของที่นี่ไหว และดอยอินททน์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายซึ่งเรียกได้ว่า อยู่เที่ยวเกิน 3 วันถึงจะสามารถเก็บตกจุดหลัก ๆ ได้ครบ บางคนจึงขึ้นมากางเต๊นท์บนดอยอินทนนท์ด้วย เรียกได้ว่า มาเชียงใหม่หากพลาดมาเยือนดอยอินทนนท์ล่ะก็จะถือว่าไม่ได้มาเจาะเชียงใหม่อย่างครบรสเลย ในวันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับความสวยงามของจุดถ่ายรูปสำคัญที่เมื่อมาดอยอินทนนท์แล้วย่อมต้องได้แวะเที่ยวในสถานที่คลาสสิกบนตัวดอยแห่งนี้ให้ได้เลย แล้วจะติดใจจนอยากมากับคนรู้ใจอีกหลายต่อหลายครั้งอย่างแน่นอน เพราะแม้จะอยู่บนดอยเดียวกันแต่กลับมีความงดงามแปลกตาของทิวทัศน์ที่สวยโดดเด่นไม่เหมือนกันเลยเชื่อหรือเปล่าล่ะทุกคน!

“เมืองรอง” รู้จักกันดีในแวดวงนักเดินทางของประเทศไทยที่เมืองรองนั้นเป็นกลุ่มจังหวัดที่ถูกจัดว่ามีความสวยงามในสภาพแวดล้อมและมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ สุด Unseen ซ่อนตัวอยู่ในเขตของจังหวัดมากมายด้วย เพียงแต่ด้วยความที่จังหวัดในประเทศไทยเหล่านี้ไม่ได้ถูกบูมหรือโปรโมทในสถานที่ท่องเที่ยวกันนักจึงทำให้ใคร ๆ ต่างก็ไม่ค่อยรู้กันนักว่า จังหวัดเหล่านั้นมีความน่าสนใจในด้านการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง อันได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ลำพูน อุตรดิตถ์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน พิจิตร แพร่ น่าน กำแพงเพชร

“บาหลี” เกาะสวรรค์ในประเทศอินโดนีเซียที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจในการมาท่องเที่ยวพักร้อนกันเป็นจำนวนมากจนเลื่องชื่อระดับโลกพอ ๆ กับเกาะฮาวาย ด้วยความสวยงามของน้ำทะเล ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่เป็นสีเขียวเข้ม และสถาปัตยกรรมแบบชวาดั้งเดิมที่ติดกับป่าไม้และขุนเขาที่ลึกลับเคล้าไปหมอกทำให้ทุกอย่างของเกาะบาหลีมีความลงตัวอย่างมากจนกลายเป็นมนต์ขลังที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากไปท่องเที่ยวกัน แน่นอนแม้แต่คนไทยอย่างเรา ๆ ก็ยังพยายามที่จะเก็บเงินค่าทัวร์เพื่อไปเที่ยวเกาะบาหลีให้ได้สักครั้งในชีวิตด้วย แต่ในเมื่อเวลานี้เรายังไม่สามารถเก็ยเงินได้ถึง ทว่าใจมันเรียกร้องหาบาหลีหนักมากล่ะก็มาเที่ยว 3 จังหวัดเหล่านี้ของประเทศไทยกันก่อนเลยดีกว่า เพราะจังหวัดเหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่คลายกับบาหลีมากโดยที่เราไม่ต้องเสียตังค์ค่าตั๋วเครื่องบินที่สูงเท่ากับการออกไปนอกประเทศเลย!

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวเกาะสวยสุด Unseen ที่หลายคนนำประสบการณ์ท่องเที่ยวของตัวเองมาแชร์กับกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยกันมากมาย แน่นอนว่าหนึ่งในชื่อเกาะของไทยที่เรามักจะได้ยินกันไม่มากก็น้อยทางภาคใต้ย่อมจะมี “เกาะ ปันหยี” อยู่ในนั้น ด้วยเป็นเกาะที่มีความสวยงามและมีสถานที่สุด Unseen ให้ไปเยือนอย่างที่ไม่เคยมีใครคิดว่าบนเกาะที่ไม่ใช่ชุมชนใหญ่ ๆ จะมีความอลังการสวยงามของสิ่งปลูกสร้างจากมนุษย์ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โดดเด่นเช่นนี้ได้ ต้องขอเกริ่นก่อนว่า เกาะปันหยี เป็นเกาะขนาดเล็กในอำเภอเมือง จังหวัดพังงา มีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 1 ไร่บริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาบนทะเลอ่าวพังงาที่มีผืนทะเลสีมรกตดุจอัญมณี ทำให้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติกับสายท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลแล้ว ยังเต็มไปด้วยความเงียบสงบกับผู้คนที่เป็นกันเอง ต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับครอบครัวด้วย ซึ่งเกาะปันหยีหรือภาษาอินโดนีเซียเรียกว่า “เกาะธง” ตามความหมายของศัพท์ก็ได้ซ่อนความงดงามทั้ง

เมื่อกล่าวถึงการไปพักค้างคืนบน “ภูทับเบิก” สถานที่ท่องเที่ยวเขาสูงจังหวัดเพชรบูรณ์ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และสวยงามราวกับสวรรค์ด้วยเมฆหมอกที่ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ก็ได้พบความประทับใจแล้ว ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวภูทับเบิกก็ต้องอยากมาจองที่พักบริเวณจุดวัดอุณหภูมิและอาคารหอดูดาวซึ่งเป็นแลนด์มาร์คเด็ดอยู่ใจกลางภูทับเบิกกันทั้งนั้น ด้วยบริเวณดังกล่าวจะเป็นจุดที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุดตั้งแต่คาเฟ่ร้านอาหารหลากหลายเมนูที่เรียงรายขายกันตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำคืน ทั้งหมูกระทะ ส้มตำไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ชากาแฟ ไปจนถึงที่พักรีสอร์ตมากมายและลานกางเต็นท์ที่อยู่ในจุดชมวิวหลักซึ่งเรียกได้ว่า ใครมาที่ภูทับเบิกแต่พลาดการมาถ่ายรูปวิวที่จุดวัดอุณหภูมิและอาคารหอดูดาวนั้นถือว่ามาไม่ถึง! แต่ในวันนี้เราอยากจะมาแนะนำให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศมาเลือกที่พักริมทางบนภูทับเบิกดูแล้วจะรู้ว่าเด็ดไม่แพ้เหล่าที่พักบริเวณจุดชมวิวหลักของภูทับเบิกเลย แม้ว่าจะไม่ได้สะดวกสบายเท่ากับจุดดังกล่าว